Flag EnglandFlag Thailand

การจัดการทรัพยากรมนุษย์ (HRM) กลยุทธ์สร้างความได้เปรียบในตลาดแรงงานยุคเปลี่ยนผัน

HRM


ในยุคที่เทคโนโลยีและรูปแบบการทำงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การจัดการทรัพยากรมนุษย์ (HRM) ไม่ใช่เพียงแค่การบริหารคนในองค์กรแบบดั้งเดิมอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจมุมมองใหม่ของ HRM ที่องค์กรชั้นนำนำมาปรับใช้เพื่อรับมือกับความท้าทายในตลาดแรงงานปัจจุบัน


กลยุทธ์ HRM เชิงรุกในการจัดการทรัพยากรมนุษย์

การแข่งขันเพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ องค์กรที่ประสบความสำเร็จในการจัดการทรัพยากรมนุษย์จึงต้องปรับเปลี่ยนจากการรอรับสมัครงานมาเป็นการ "ล่าคนเก่ง" (Talent Hunting) เชิงรุก นี่คือกลยุทธ์ที่องค์กรชั้นนำนำมาใช้:

  • การสร้างแบรนด์นายจ้าง (Employer Branding) ที่แข็งแกร่งและมีเอกลักษณ์เฉพาะ สะท้อนวัฒนธรรมและค่านิยมองค์กรอย่างแท้จริง

  • การใช้ Data Analytics ในการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดแรงงานและคาดการณ์ความต้องการด้านทักษะในอนาคต

  • การสร้างโปรแกรมสวัสดิการที่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์คนทำงานในแต่ละช่วงวัยและรูปแบบการใช้ชีวิต

ตัวอย่างที่น่าสนใจคือบริษัท Google ที่พัฒนาระบบ "Project Oxygen" เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ผลการประเมิน และฟีดแบ็คของพนักงาน นำมาสู่การค้นพบลักษณะผู้นำที่มีประสิทธิภาพและสร้างความพึงพอใจให้กับทีม แทนที่จะใช้สมมติฐานทั่วไปเกี่ยวกับภาวะผู้นำ


การสร้างประสบการณ์พนักงานที่เหนือความคาดหมาย

แนวคิด Employee Experience (EX) กำลังปฏิวัติวงการ HRM จากเดิมที่มุ่งเน้นเพียงการบริหารจัดการ "ทรัพยากร" มาสู่การออกแบบ "ประสบการณ์" ตลอดเส้นทางการทำงานของพนักงาน ตั้งแต่ขั้นตอนการสรรหาไปจนถึงวันสุดท้ายในองค์กร

กลยุทธ์ที่องค์กรชั้นนำนำมาใช้:

  • การสร้าง Journey Map ของพนักงานเพื่อเข้าใจทุก Touchpoint และโอกาสในการสร้างความประทับใจ

  • การใช้เทคโนโลยี AI และแชทบอท เพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงานได้ทันทีและตลอด 24 ชั่วโมง

  • การออกแบบพื้นที่ทำงาน ทั้งแบบ Physical และ Digital Workspace ที่ส่งเสริมทั้งผลิตภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

บริษัท Airbnb เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ โดยได้ปรับโครงสร้างฝ่ายทรัพยากรบุคคลใหม่เป็น "Employee Experience Team" ที่มุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและสอดคล้องกับแบรนด์ของบริษัท


การบริหารผลงานแบบต่อเนื่อง (Continuous Performance Management)

ระบบการประเมินผลงานประจำปีแบบดั้งเดิมกำลังถูกแทนที่ด้วยการบริหารผลงานแบบต่อเนื่องที่เน้นการให้ฟีดแบ็คสม่ำเสมอและการโค้ชเพื่อพัฒนาศักยภาพ แนวทางนี้ไม่เพียงช่วยให้พนักงานพัฒนาตนเองได้ทันท่วงที แต่ยังเพิ่มความผูกพันกับองค์กรอีกด้วย

กลยุทธ์ที่เป็นที่นิยม:

  • การประชุม 1-on-1 แบบสม่ำเสมอ ระหว่างหัวหน้างานและพนักงาน เน้นการสนทนาเชิงพัฒนามากกว่าการวิจารณ์

  • การใช้แพลตฟอร์มฟีดแบ็คแบบเรียลไทม์ ที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้รับและให้ข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์

  • การกำหนด OKRs (Objectives and Key Results) ที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์

Microsoft เป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนจากระบบประเมินผลแบบบังคับเปรียบเทียบ (Forced Ranking) มาสู่วัฒนธรรมการเติบโต (Growth Mindset) ที่เน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง


HRM

การพัฒนาทักษะที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง (Future-Proofing Skills)

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วทำให้ทักษะต่างๆ มีอายุการใช้งานสั้นลง การจัดการทรัพยากรมนุษย์ในยุคนี้จึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะที่รองรับอนาคต (Future-Proofing Skills) และการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

กลยุทธ์สำคัญ:

  • การสร้าง Skill Mapping เพื่อระบุทักษะที่จำเป็นในปัจจุบันและอนาคต พร้อมวางแผนการพัฒนาอย่างเป็นระบบ

  • การใช้เทคโนโลยี Microlearning ที่แบ่งเนื้อหาการเรียนรู้เป็นชิ้นเล็กๆ สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา

  • การสนับสนุนการ Upskill และ Reskill ผ่านระบบนิเวศการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งแบบ Formal และ Informal Learning

AT&T ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในโครงการ "Future Ready" เพื่อพัฒนาทักษะใหม่ให้กับพนักงานกว่า 100,000 คน แทนที่จะเลือกเลิกจ้างและจ้างงานใหม่ซึ่งมีต้นทุนที่สูงกว่ามาก


การสร้างองค์กรที่หลากหลายและเท่าเทียม (Diversity, Equity & Inclusion)

การจัดการทรัพยากรมนุษย์ในปัจจุบันไม่อาจละเลยประเด็นเรื่องความหลากหลายและความเท่าเทียม ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นความรับผิดชอบทางสังคม แต่ยังเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

แนวปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ:

  • การออกแบบกระบวนการคัดเลือกที่ลดอคติ โดยใช้เทคโนโลยีและวิธีการประเมินที่เน้นทักษะและศักยภาพมากกว่าภูมิหลัง

  • การสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วม ที่ทุกคนรู้สึกปลอดภัยที่จะแสดงความคิดเห็นและเป็นตัวของตัวเอง

  • การวัดผลและติดตามความก้าวหน้าด้าน DE&I อย่างเป็นระบบ พร้อมปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

Salesforce เป็นตัวอย่างที่ดีในด้านนี้ โดยได้ลงทุนกว่า 6 ล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงความเท่าเทียมทางค่าตอบแทนระหว่างเพศและเชื้อชาติ รวมทั้งตั้งเป้าเพิ่มความหลากหลายในทุกระดับขององค์กร


การปรับใช้เทคโนโลยี HR Tech และ People Analytics

เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนโฉมการจัดการทรัพยากรมนุษย์อย่างสิ้นเชิง โดยช่วยให้นักบริหาร HR สามารถตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล (Data-Driven Decision) แทนการใช้สัญชาตญาณหรือประสบการณ์เพียงอย่างเดียว

นวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนแปลงวงการ HRM:

  • การใช้ AI ในการคัดกรองและจับคู่ผู้สมัครงาน ช่วยลดอคติและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการสรรหา

  • แพลตฟอร์ม People Analytics ที่ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มและทำนายพฤติกรรมของพนักงาน เช่น ความเสี่ยงในการลาออก

  • เครื่องมือ Employee Listening ที่รวบรวมและวิเคราะห์ความคิดเห็นของพนักงานแบบเรียลไทม์

IBM ใช้ AI ในระบบ "Watson Career Coach" เพื่อแนะนำเส้นทางอาชีพและโอกาสการพัฒนาสำหรับพนักงานแต่ละคน โดยวิเคราะห์จากทักษะ ประสบการณ์ และความสนใจส่วนบุคคล


การดูแลสุขภาพองค์รวมของพนักงาน (Employee Wellbeing)

การจัดการทรัพยากรมนุษย์สมัยใหม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานแบบองค์รวม ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ การเงิน และสังคม แนวคิดนี้ไม่เพียงช่วยลดอัตราการขาดงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังเสริมสร้างความผูกพันต่อองค์กรในระยะยาว

โปรแกรมที่ประสบความสำเร็จ:

  • การดูแลสุขภาพจิต ผ่านบริการให้คำปรึกษาและแอปพลิเคชันสำหรับการจัดการความเครียด

  • โปรแกรมการศึกษาด้านการเงิน และการวางแผนเกษียณที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงอายุ

  • การส่งเสริมสมดุลชีวิตและการทำงาน ผ่านนโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่นและการลาพักผ่อนที่เพียงพอ

Unilever พัฒนาโปรแกรม "Wellbeing Framework" ที่ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ กายภาพ จิตใจ อารมณ์ และจิตวิญญาณ โดยปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นในแต่ละประเทศที่บริษัทดำเนินธุรกิจ


การจัดการทรัพยากรมนุษย์ในรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย

ตลาดแรงงานปัจจุบันมีรูปแบบการทำงานที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว ฟรีแลนซ์ และที่ปรึกษา การจัดการทรัพยากรมนุษย์จึงต้องปรับตัวเพื่อรองรับ "แรงงานแบบผสมผสาน" (Blended Workforce) อย่างมีประสิทธิภาพ

กลยุทธ์สำคัญ:

  • การพัฒนาระบบการบริหารจัดการคนที่ยืดหยุ่น สามารถรองรับความหลากหลายของสัญญาจ้างและรูปแบบการทำงาน

  • การสร้างวัฒนธรรมการทำงานร่วมกัน ระหว่างพนักงานประจำและแรงงานชั่วคราว

  • การออกแบบประสบการณ์การทำงาน ที่เหมาะสมสำหรับพนักงานทุกประเภท

Cisco พัฒนาแพลตฟอร์ม "Talent Cloud" เพื่อจับคู่โครงการกับบุคลากรที่มีทักษะที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ ผู้รับเหมา หรือแม้แต่พันธมิตรภายนอก ช่วยให้องค์กรมีความคล่องตัวสูงในการบริหารทรัพยากรมนุษย์


การจัดการทรัพยากรมนุษย์ในยุคปัจจุบันได้ก้าวข้ามบทบาทเดิมที่เน้นงานธุรการและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ มาสู่การเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนธุรกิจ ฝ่าย HR ไม่เพียงแต่ต้องเข้าใจความต้องการของพนักงาน แต่ยังต้องเชื่อมโยงกับเป้าหมายทางธุรกิจและสภาพแวดล้อมภายนอกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

องค์กรที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตคือองค์กรที่สามารถปรับกลยุทธ์ HRM ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน การพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต และการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลในการตัดสินใจ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบในตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ติดตามบทความความรู้เกี่ยวกับภาษี เคล็ดลับและความรู้สำหรับพนักงานและผู้ประกอบการ และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลได้ที่ ByteHR หรือ หากคุณต้องการเริ่มต้นใช้โปรแกรมสำหรับ HR แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไรและฟังก์ชันต่างๆจะตอบสนองความต้องการใช้งานของบริษัทคุณหรือไม่ ลองปรึกษา ByteHR ได้ฟรีทาง  02 026 3297 หรือติดต่อ sales@byte-hr.com


Sea Chonthicha
เกี่ยวกับผู้เขียน
ซีมีประสบการณ์ทำงานที่หลากหลายกว่า 9 ปี ในด้านทรัพยากรบุคคล การสรรหาบุคลากร และการตลาดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ ปัจจุบันเธอกำลังสร้างประสบการณ์การทำงาน ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในภาคธุรกิจการบริการ โดยใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของเธอในการขับเคลื่อนกลยุทธ์นวัตกรรมทางการตลาด